ท่ามกลางภาวะเหตุการณ์แบบนี้ เชื่อว่าหลายๆคนมีความเครียดกันมากขึ้น ทั้งกับการที่ต้องป้องกันตัวเองจากโควิด และสภาพเศรษฐกิจถดถอยที่ยาวนาน ทำให้หลายๆคนอาจจะเกิดภาวะเสพติดความเครียดแบบไม่รู้ตัว รู้ตัวอีกทีร่างกายอาจจจะไม่ไหวล้มป่วยเฉียบพลันต้องเข้าโรงพยาบาล หรือทางการแพทย์เรียกว่า “ภาวะต่อมหมวกไตล้า”
คอร์ติซอล (Cortisol) เป็นฮอร์โมนความเครียดของร่างกาย ที่หลั่งออกมาทุกเช้า เพื่อให้มีแรงกระฉับกระเฉงตื่นตัวลุกไปทำงาน แล้วค่อยๆลดลงเมื่อหมดวัน แต่ถ้ามีความเครียดสะสมมากเกินไป และพักผ่อนไม่เพียงพอ สารนี้จะหลั่งออกมากเกิน และเริ่มทำลายร่างกายเราให้เสื่อมและแก่เร็ว
อาการที่เห็นได้ชัดไว้เชคตัวเองกัน คือ
- ตื่นนอนตอนเช้ายากมาก ไม่มีเรี่ยวแรง
- พอกลางคืนมักนอนไม่หลับ
- เหนื่อยง่าย ไม่มีสมาธิจดจ่อกับการทำงาน
- วิงเวียงศีรษะง่าย จากการแค่ลุกนั่งธรรมดา
- เครียดง่าย มีความรู้สึกกังวลใจอยู่ตลอดเวลา
- อยากทานของหวานมากผิดปกติ พอได้ทานแล้วจะดีขึ้น
- เวลาหิวมีอาการใจสั่น
- ท้องอืด อาหารไม่ย่อย ท้องผูกง่าย
- ประจำเดือนมาไม่ปกติ
- ภูมิแพ้กำเริบ ทำให้ป่วยบ่อย
หากใครมีอาการตามที่กล่าวมานี้ ซึ่งอาจจะกระทบถึงหน้าที่การงานและกิจวัตรประจำวันต่างๆได้เลย วิธีแก้หลักๆคือ ลดความเครียด ทำจิตใจให้ปลอดโปร่ง พักผ่อนให้เพียงพอ ออกกำลังกายบ้าง ลดอาหารหวานเค็ม ทานอาหารเช้าเป็นประจำ
อาหารเสริมที่ช่วยบรรเทาอาการได้เช่น
- Ashwaghandha (โสมอินเดีย)
- L-theanine (สารสกัดจากชาเขียว)
- วิตามิน C
- วิตามิน B3 / B5 / B6
หรือถ้าอาการหนัก แก้ไม่ได้ด้วยตัวเอง อย่าปล่อยไว้นาน แนะนำให้ปรึกษาหมอกันนะคะ ซึ่งคุณหมอสามารถเชคว่าเราเป็นภาวะได้จากการตรวจเลือด เพื่อวัดระดับของฮอร์โมนต่อมหมวกไต (Adrenal Hormones) 2 ตัวที่มีชื่อว่า คอร์ติซอล (Cortisol) และ ดีเอชอีเอ (Dyhydroepiandrosterone – DHEA) แล้วจะได้ทำการรักษาให้ถูกวิธีค่ะ